T&B ผนึกพันธมิตรไทย-เทศ สร้าง ECOSYSTEM รองรับคราวน์ โทเคน “CWT” พัฒนาแพตลฟอร์ม NFT มุ่งสู่โลกเสมือน

T&B ผนึกพันธมิตรไทย-เทศ สร้าง ECOSYSTEM รองรับคราวน์ โทเคน “CWT” พัฒนาแพตลฟอร์ม NFT มุ่งสู่โลกเสมือน

ดร.ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด (T&B Media Global Thailand) กล่าวว่า บริษัทฯได้เปิดตัว Crown Token “CWT” โดยเป็นความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญของวงการโทเคนของประเทศไทย ที่จะเชื่อมโยงโอกาสและพลิกโฉมครั้งใหญ่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม momo collagen รวมถึงธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งจะสร้างโอกาสมหาศาล ให้กับศิลปิน ครีเอเตอร์ รวมไปถึงผู้ชมด้วย ที่สามารถมีส่วนร่วมและได้รับประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ โดยผ่านการถือครอง “คราวน์ โทเคน” หรือ CWT ซึ่งเปิดเทรดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บน ZIPMEX และได้รับการตอบรับอย่างดี

ดร.ชวัลวัฒน์ เชื่อมั่นว่าการบุกตลาดโลกของ T&B และพันธมิตรจะเป็นการสร้างทั้งชื่อเสียงและเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับ IPs โปรเจกต์ ซึ่งก็คือภาพยนตร์แอนิเมชันเหล่านี้ ที่เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสำคัญของบริษัท นอกจากนี้ T&B ยังมีบริษัทในเครือชื่อ Tree Roots Entertainment Group ซึ่งเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม SMO ที่จะเป็นศูนย์กลางทั้งในด้านการสร้างคอมมูนิตี้ (community) สร้างการมีส่วนร่วม (engagement) ของ ครีเอเตอร์ ศิลปิน และกลุ่มแฟน ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างอีโคซิสเท็มที่แข็งแกร่งให้กับคราวน์โทเคนด้วย

ทั้งนี้ “คราวน์ โทเคน” หรือ CWT เป็น Utility Token ที่นำเอาจุดเด่นของ IP ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์และซีรีย์แอนิเมชันที่ผลิตโดย T&B มาต่อยอดทางธุรกิจให้มีความหลากหลาย และจะนำไปสู่การสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน

สำหรับพันธมิตรชั้นนำของไทยและระดับโลก ที่ร่วมประกาศความร่วมมือกับ T&B ประกอบด้วย MQDC ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์, ZIPMEX แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิตัลชั้นนำของไทย, Last Idol Thailand, BBTV New Media, เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์, The One Enterprise และโลมาบิน (Lomabin) ซึ่งเป็นกลุ่มเอ็นเทอร์เทนเมนต์แถวหน้าของวงการ นอกจากนี้ยังมี หัวเว่ย เทคโนโลยี่ แผนกธุรกิจคลาวด์ ผู้นำด้านการสื่อสารโทรคมนาคมระดับโลก, อินโฟเฟด (INFOFED) Startup ด้าน อีสปอร์ตและเกม สัญชาติไทย และ Cozy Game ผู้ทำ Game Fi (Blockchain & NFT Game) Studio & Publisher สัญชาติไทยเช่นกัน รวมถึงมหาวิทยาลัยรังสิต สถาบันการศึกษาที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ขณะที่พันธมิตรต่างประเทศ ได้แก่ Pellar Technology ผู้เชี่ยวชาญระบบบล็อกเชนระดับโลก, Andrew Gordon ผู้อยู่เบื้องหลังแอนิเมชันระดับโลกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น “Monsters, Inc.” และ “Toy Story”, Mr. Kenji Xiao ผู้มีประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการแอนิเมชั่นในจีน และ Sunac Culture Group หนึ่งในผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ “สวนสนุกธีมพาร์ค” และ “Family Entertainment ของจีน ซึ่งความร่วมมือที่เชื่อมต่อกลุ่มธุรกิจที่มีความหลากหลายนี้ จะช่วยสนับสนุนและสร้างอีโคซิสเท็มที่แข็งแกร่ง

พรรณธร ลออรรถวุฒิ, CFA, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มบริษัท T&B Media Global และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท VUCA Digital กล่าวว่า มีความตั้งใจในการสร้าง “คราวน์ โทเคน” หรือ CWT ให้เป็นโทเคนระดับโลกที่จะเข้ามาช่วยจุดประกายให้กับ IP (Intellectual Property) หรือ ทรัพย์สินทางปัญญา โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าและต่อยอดให้กับผลงานของศิลปินและผู้ผลิตคอนเทนท์ทุกคน เพราะฉะนั้นการสร้างอีโคซิสเท็มของ CWT จะเป็นโทเคนที่เชื่อมโยงกับพาร์ทเนอร์ในทุกอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่ารวมถึงการสร้างโอกาสร่วมกัน ทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มการใช้งาน หรือ use case ของ CWT ให้กว้างขึ้น โดยความเชื่อมต่ออย่างครบวงจรและเต็มรูปแบบของ CWT และ ADOT แพลตฟอร์ม NFT นั้น ทาง T&B เราได้พันธมิตรระดับโลก Pellar Technology ของออสเตรเลีย ที่มีผลงานและประสบการณ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมพัฒนาอีกด้วย

แพลตฟอร์ม ADOT จะเชื่อม IPs ที่ทั้งมีทั้งภาพยนตร์ ละคร แอนิเมชัน เพลง และเอ็นเทอร์เทนเมนต์ในรูปแบบต่างๆ มาสู่สินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Digital Assets ซึ่งจะสร้างโอกาสให้กับศิลปินคอนเทนท์ ครีเอเตอร์ ผู้ผลิต รวมไปถึงผู้ชมที่จะมีส่วนร่วมและได้รับประสบการณ์รูปแบบใหม่ๆ ผ่านการถือครอง CWT ในการจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย ทั้งการรับ NFT Airdrop จากแอนิเมชั่นทั้ง 6 เรื่อง สิทธิในการโหวตทิศทางของภาพยนตร์และแอนิเมชันในเครือ T&B สิทธิในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์และ NFT รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ จาก SMO Live Platform และที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมใน “Translucia Metaverse” ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์ ของ T&B

สำหรับ Mr. Roy Hui, Pellar Technology ประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Blockchain Technology ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในการพัฒนาโปรเจกต์ NFT ระดับสากล มาร่วมสร้างแพลตฟอร์ม “ADOT” ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์ม NFT ที่มีลูกเล่นมากมายให้กับบรรดาศิลปิน และ ครีเอเตอร์ (Creator) อาทิ Utility Function ที่ครีเอเตอร์สามารถกำหนดได้ว่าเมื่อ Collector เก็บชิ้นงานได้ครบทั้ง Collection ทาง Collector สามารถนำมาแลกเปลี่ยน (Redeem) เป็น NFT ชนิดพิเศษที่ให้สิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย เช่น เข้าร่วมงาน Meet & Greet ทั้ง online และ offline กับศิลปินหรือครีเอเตอร์ นอกจากนี้ ADOT ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อย่างเช่น การร่วมสร้างสรรค์ การร่วมสร้างคอมมูนิตี้ กับเหล่าบรรดาศิลปินและครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบ

ด้านบรรดาพันธมิตรชั้นนำของไทยต่างเชื่อมั่นว่า แพลตฟอร์ม NFT นี้ จะ “เปลี่ยน” และ “เปิด” โอกาสธุรกิจให้กับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ทั้งการสร้างรายได้ การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ให้กับศิลปินและครีเอเตอร์ รวมไปถึงผู้ชม หรือ แฟนคลับของศิลปิน ในการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ บนโลกเสมือน และยังสร้างธุรกิจได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจแบบรอบด้าน

วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า MQDC ได้เห็นความสำคัญกับการนำนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ อย่างเช่น โทเคนดิจิทัลมาต่อยอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในกลุ่มที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ สำนักงาน ศูนย์การค้า ธุรกิจการให้บริการ รวมถึงนวัตกรรมทางการเงิน ภายใต้แนวคิด “For All Well-Being” พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นว่านวัตกรรมการเงินในครั้งนี้จะผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ของประเทศไทยต่อไป

วิบูลย์ ลีรัตนขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทเซิร์ช ได้ประกาศความเป็นไปได้ในการ่วมมือกันระหว่าง Search Entertainment และ T&B, VUCA Digital, และ Tree Root Entertainment Group โดย Search Entertainment จะเป็นผู้ผลิตและดูแลการสร้างคอนเทนต์ ของ NFT ขณะที่ VUCA Digital จะดูแลด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและการสร้างคอมมูนิตี้

 

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*